วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567

Thaifex 2024 Day#4 - ใจความที่หายไปจากท้ายไลน์การผลิต



SimplexMove ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ในการ แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการที่มาเดินในงาน Thaifex 2024 ปีนี้
ตลอดระยะเวลา 4 วันที่ผ่านมา มีใจความสำคัญคำหนึ่ง ที่ผู้ประกอบการ มากกว่า 90% รับรู้แต่ยังไม่เข้าใจ และนี่ก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ การพัฒนาท้ายไลน์การผลิต Packing solution มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ใจความนั้นคือ "เป้าหมาย OEE"

OEE สำหรับงานแพ็คกิ้ง: หัวใจสำคัญสู่อนาคตที่รุ่งเรืองของกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG
ในอุตสาหกรรมอาหารและสินค้า FMCG การบรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนด่านสุดท้ายก่อนที่สินค้าจะถึงมือผู้บริโภค ประสิทธิภาพของกระบวนการนี้จึงส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยตรง การวัดและวิเคราะห์ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ของงานแพ็คกิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ผลิต

** OEE คืออะไร⁉️ **
Overall Equipment Effectiveness หรือ ประสิทธิภาพโดยรวมของอุปกรณ์ เป็นนิยามที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิต โดยคำนวณจาก 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

Availability Rate (อัตราการพร้อมใช้งาน): ระยะเวลาที่เครื่องจักรหรือกระบวนการผลิตพร้อมใช้งานจริง หารด้วยระยะเวลาการผลิตทั้งหมด
Performance Rate (อัตราการทำงาน): ปริมาณงานที่ผลิตได้จริง หารด้วยปริมาณงานที่ควรผลิตตามมาตรฐาน
Quality Rate (อัตราคุณภาพ): จำนวนผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีตำหนิ หารด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

OEE ของงานแพ็คกิ้งมีความสำคัญอย่างไร
OEE ของงานแพ็คกิ้งมีความสำคัญต่อกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG ดังนี้

+ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งมอบสินค้า: การบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกจัดส่งไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงเวลา ลดการสูญเสียสินค้าระหว่างทาง และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

+ ลดต้นทุนการผลิต: OEE ที่สูง หมายถึง การสูญเสียทรัพยากรที่น้อยลง เช่น วัตถุดิบ พลังงาน และเวลา ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตโดยรวม

+ เพิ่มขีดความสามารถในการผลิต: เมื่อกระบวนการบรรจุภัณฑ์มีประสิทธิภาพ ผู้ผลิตสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตสินค้าได้โดยไม่ต้องลงทุนในเครื่องจักรชุดใหม่

+ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน: ผู้ผลิตที่มี OEE ของงานแพ็คกิ้งสูง จะสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหนือกว่าคู่แข่ง

** ผลเสียหากไม่มีเป้าหมาย OEE ของงานแพ็คกิ้ง❗️ **
การไม่มีเป้าหมาย OEE ของงานแพ็คกิ้ง จะส่งผลเสียต่อการผลิตทั้งกระบวนการ ดังนี้

+ สินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้น: หากกระบวนการบรรจุภัณฑ์มีประสิทธิภาพต่ำ จะส่งผลให้สินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้น สินค้าอาจเสื่อมสภาพหรือสูญเสียมูลค่า

+ การขาดแคลนสินค้า: หากไม่สามารถบรรจุภัณฑ์สินค้าได้ทันต่อความต้องการ อาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนสินค้าในตลาด ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

+ สูญเสียโอกาสทางการขาย: การส่งมอบสินค้าล่าช้าหรือไม่ตรงตามกำหนด อาจทำให้สูญเสียโอกาสทางการขายและลูกค้า

+ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น: ประสิทธิภาพการผลิตที่ต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ส่งผลต่อกำไรของบริษัท

** OEE สำหรับกระบวนการท้าย Line การผลิต ในส่วนของงานแพ็คกิ้ง มีความสำคัญอย่างไรกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการส่งมอบสินค้า สำหรับกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG (Fast Moving Consumer Goods) **

OEE สำหรับงานแพ็คกิ้ง: หัวใจสำคัญสู่อนาคตที่รุ่งเรืองของกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG
ในอุตสาหกรรมอาหารและสินค้า FMCG การบรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนด่านสุดท้ายก่อนที่สินค้าจะถึงมือผู้บริโภค ประสิทธิภาพของกระบวนการนี้จึงส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยตรง การวัดและวิเคราะห์ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ของงานแพ็คกิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ผลิต

** ตัวอย่าง เป้าหมายตัวเลข OEE คือสิ่งที่มักขาดหายไป **
OEE ของงานแพ็คกิ้ง เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางสู่อนาคตที่รุ่งเรืองสำหรับกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG การวัดและวิเคราะห์ OEE อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ระบุจุดอ่อน ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม
SimplexMove ขอยกตัวอย่างตัวเลขการปรับปรุง OEE ของงานท้ายไลน์การผลิตที่จะช่วยให้หลายๆ ท่านเห็นความสำคัญของการพัฒนาท้ายไลน์การผลิตชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างการวิเคราะห์ OEE ของงานแพ็คกิ้ง: เส้นทางสู่ประสิทธิภาพการผลิตที่เหนือกว่าจากสถานการณ์จำลอง:

โรงงานผลิตอาหารแห่งหนึ่ง กำลังเผชิญกับปัญหาการส่งมอบสินค้าล่าช้า สินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้น และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การวิเคราะห์เบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า ปัญหาเหล่านี้อาจมาจากประสิทธิภาพการทำงานของ "กระบวนการบรรจุภัณฑ์" ที่ต่ำเกินไป

การวิเคราะห์ OEE:
จากการเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่า OEE ของงานแพ็คกิ้งอยู่ที่ 73% แบ่งออกเป็น

• Availability Rate: 85% (เครื่องจักรระบบแพ็คกิ้งท้ายไลน์พร้อมใช้งาน 8.5 ชั่วโมงต่อกะ 10 ชั่วโมง)
• Performance Rate: 90% (แพ็คสินค้าได้ 9 ชิ้นต่อนาที แทนที่จะผลิตได้ 10 ชิ้นต่อนาทีตามมาตรฐาน)
• Quality Rate: 95% (แพ็คผลิตภัณฑ์ 95 ชิ้นจาก 100 ชิ้น ไม่มีตำหนิ)
AxPxQ = 0.85x0.90x0.95 = 0.73 หรือ 73%

โอกาสในการพัฒนาจากการวิเคราะห์ พบโอกาสในการพัฒนา OEE ที่ระบบ packing ท้ายไลน์การผลิตได้ดังนี้

เพิ่ม Availability Rate: ปรับปรุงระบบการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ลดระยะเวลาการหยุดทำงานของเครื่องจักรลง 30 นาทีต่อกะ ส่งผลให้ Availability Rate เพิ่มเป็น 90%
เพิ่ม Performance Rate: ปรับแต่งเครื่องจักรและกระบวนการแพ็คใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลด startup loss ส่งผลให้ Performance Rate เพิ่มเป็น 95%
เพิ่ม Quality Rate ด้วยการปรับ Gripper แบบใหม่: เพิ่มมาตรฐานการแพ็ค สร้าง Quality Rate ใหม่ที่ 98%

หากสามารถพัฒนา OEE ของงานแพ็คกิ้งได้ตามเป้าหมาย จะส่งผลดังนี้

OEE เพิ่มเป็น 84% (คำนวณจาก 90% x 95% x 98%) จากเดิม 73%
ปริมาณการแพ็คสินค้าเพิ่มขึ้น 5% (จาก 9 ชิ้นต่อนาที เป็น 9.5 ชิ้นต่อนาที)
ลดระยะเวลาการแพ็คสินค้าลง 5.3% (จาก 100 นาที เหลือ 94.7 นาที)
ลดต้นทุนการแพ็คสินค้าลง 4.7% (จาก 200 บาท เหลือ 190.6 บาท)
สินค้าคงคลังลดลง 15% (ลดภาระต้นทุนต้องแบกรับค่าสินค้าคงคลังรายวันลงได้)
การส่งมอบสินค้าตรงเวลา 99%

จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่าการเริ่มต้นวิเคราะห์งานจาก OEE ของกระบวนการ Packing ท้ายไลน์จะช่วยให้ผู้ผลิตแปรรูปอาหารและ FMCG ทุกชนิดชนะอุปสรรคของการผลิตได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนกับเงินก้อนโตเพียงเพื่อจะเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการผลิต

SIMPLEXMOVE ให้บริการพัฒนาระบบ PACKING ท้ายไลน์การผลิตตามหลักสูตรของการพัฒนาอุตสาหกรรมผ่านตัวเลข OEE และตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าทุกรายประสบความสำเร็จในกระบวนการผลิตในเงินทุนที่ประหยัดและคืนทุนได้รวดเร็วกว่า

มาพบกันในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 ที่บูธของ #SimplexMove 
🔺Booth No : 1-YY08
🔺Challenger Hall 1
🔺Zone Food Technology   
📍 IMPACT MUANG THONG THANI BANGKOK, THAILAND

🗓 วันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2567
🔸28 - 31 พฤษภาคม | 10 A.M. - 6 P.M.
🔸1 มิถุนายน | 10 A.M. - 8 P.M.

▪ ติดตามข่าวสารใหม่ๆ ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.facebook.com/simplexmove.robotics/

▪ อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.youtube.com/@simplexmovesmartfactory6863

▪ อ่านงานบริการของเราเพิ่มเติม ได้ที่นี่
👉 https://simplexmove.blogspot.com/

📞 สอบถามเพิ่มเติมเพื่อขอรับข้อมูลดีๆ กับ SIMPLEXMOVE เดินหน้าสู่การผลิตแบบ Automation ได้ที่
🌐 Website : https://www.simplexmove.com/
☎ 02-8996374, 086-3080698
📲 LineID: @simplexmove
📲 แอดไลน์สายด่วนคลิก : https://lin.ee/ExqBRXz

#OEE_สำหรับท้ายไลน์การผลิต #Simplify_Complex_Motion #ท้ายไลน์การผลิต #PACKING #THAIFEX_2024 #ROBOT_Palletizer #case_packer #plant_simulation #Visual_components #เครื่องพันพาเลท #เครื่องบรรจุกล่อง #เครื่องกางกล่อง #เครื่องpacking #วงศ์ธนาวุฒิ #SimplexMove #wongtanawoot

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น