แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ THAIFEX_2024 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ THAIFEX_2024 แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567

SimplexMove ขอกราบขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านในทุกการเยี่ยมเยือนบูธของเรา Thaifex 2024

SimplexMove มุ่งมั่นตอบโจทย์ + แก้ปัญหา + เพิ่มประสิทธิภาพการลำเลียงท้ายไลน์ ให้กับลูกค้าทุกรายด้วยการลงทุนที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

เราขอขอบพระคุณทุกความไว้วางใจที่ มอบหมายให้เราเป็นผู้ แก้ไขปัญหา และสร้างโอกาส ของการเติบโตไป พร้อมๆกัน

เราเชื่อมั่นว่าไม่ว่าตลาดโลก จะเหวี่ยงขึ้นลงอย่างไรก็ตามอาหารไทยไม่เคยตกต่ำและนี่คือพรจากสวรรค์สิ่งเดียวที่ประเทศไทยมีและแข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างที่ไม่มีใครจะทำร้ายชื่อเสียงของอาหารไทยได้ เราขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมสร้างโอกาสนี้ให้สำเร็จสู่มือ ของลูกค้าทุกท่านโดยเร็วที่สุด

▪ ติดตามข่าวสารใหม่ๆ ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.facebook.com/simplexmove.robotics/

▪ อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.youtube.com/@simplexmovesmartfactory6863

▪ อ่านงานบริการของเราเพิ่มเติม ได้ที่นี่
👉 https://simplexmove.blogspot.com/

📞 สอบถามเพิ่มเติมเพื่อขอรับข้อมูลดีๆ กับ SIMPLEXMOVE เดินหน้าสู่การผลิตแบบ Automation ได้ที่
🌐 Website : https://www.simplexmove.com/
☎ 02-8996374, 086-3080698
📲 LineID: @simplexmove
📲 แอดไลน์สายด่วนคลิก : https://lin.ee/ExqBRXz

#ท้ายไลน์การผลิต #PACKING #THAIFEX_2024 #ROBOT_Palletizer #case_packer #plant_simulation #Visual_components #เครื่องพันพาเลท #เครื่องบรรจุกล่อง #เครื่องกางกล่อง #เครื่องpacking #วงศ์ธนาวุฒิ #SimplexMove #wongtanawoot

Thaifex 2024 Day#4 - ใจความที่หายไปจากท้ายไลน์การผลิต



SimplexMove ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ในการ แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการที่มาเดินในงาน Thaifex 2024 ปีนี้
ตลอดระยะเวลา 4 วันที่ผ่านมา มีใจความสำคัญคำหนึ่ง ที่ผู้ประกอบการ มากกว่า 90% รับรู้แต่ยังไม่เข้าใจ และนี่ก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ การพัฒนาท้ายไลน์การผลิต Packing solution มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ใจความนั้นคือ "เป้าหมาย OEE"

OEE สำหรับงานแพ็คกิ้ง: หัวใจสำคัญสู่อนาคตที่รุ่งเรืองของกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG
ในอุตสาหกรรมอาหารและสินค้า FMCG การบรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนด่านสุดท้ายก่อนที่สินค้าจะถึงมือผู้บริโภค ประสิทธิภาพของกระบวนการนี้จึงส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยตรง การวัดและวิเคราะห์ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ของงานแพ็คกิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ผลิต

** OEE คืออะไร⁉️ **
Overall Equipment Effectiveness หรือ ประสิทธิภาพโดยรวมของอุปกรณ์ เป็นนิยามที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิต โดยคำนวณจาก 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

Availability Rate (อัตราการพร้อมใช้งาน): ระยะเวลาที่เครื่องจักรหรือกระบวนการผลิตพร้อมใช้งานจริง หารด้วยระยะเวลาการผลิตทั้งหมด
Performance Rate (อัตราการทำงาน): ปริมาณงานที่ผลิตได้จริง หารด้วยปริมาณงานที่ควรผลิตตามมาตรฐาน
Quality Rate (อัตราคุณภาพ): จำนวนผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีตำหนิ หารด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

OEE ของงานแพ็คกิ้งมีความสำคัญอย่างไร
OEE ของงานแพ็คกิ้งมีความสำคัญต่อกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG ดังนี้

+ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งมอบสินค้า: การบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกจัดส่งไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงเวลา ลดการสูญเสียสินค้าระหว่างทาง และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

+ ลดต้นทุนการผลิต: OEE ที่สูง หมายถึง การสูญเสียทรัพยากรที่น้อยลง เช่น วัตถุดิบ พลังงาน และเวลา ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตโดยรวม

+ เพิ่มขีดความสามารถในการผลิต: เมื่อกระบวนการบรรจุภัณฑ์มีประสิทธิภาพ ผู้ผลิตสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตสินค้าได้โดยไม่ต้องลงทุนในเครื่องจักรชุดใหม่

+ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน: ผู้ผลิตที่มี OEE ของงานแพ็คกิ้งสูง จะสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหนือกว่าคู่แข่ง

** ผลเสียหากไม่มีเป้าหมาย OEE ของงานแพ็คกิ้ง❗️ **
การไม่มีเป้าหมาย OEE ของงานแพ็คกิ้ง จะส่งผลเสียต่อการผลิตทั้งกระบวนการ ดังนี้

+ สินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้น: หากกระบวนการบรรจุภัณฑ์มีประสิทธิภาพต่ำ จะส่งผลให้สินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้น สินค้าอาจเสื่อมสภาพหรือสูญเสียมูลค่า

+ การขาดแคลนสินค้า: หากไม่สามารถบรรจุภัณฑ์สินค้าได้ทันต่อความต้องการ อาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนสินค้าในตลาด ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

+ สูญเสียโอกาสทางการขาย: การส่งมอบสินค้าล่าช้าหรือไม่ตรงตามกำหนด อาจทำให้สูญเสียโอกาสทางการขายและลูกค้า

+ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น: ประสิทธิภาพการผลิตที่ต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ส่งผลต่อกำไรของบริษัท

** OEE สำหรับกระบวนการท้าย Line การผลิต ในส่วนของงานแพ็คกิ้ง มีความสำคัญอย่างไรกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการส่งมอบสินค้า สำหรับกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG (Fast Moving Consumer Goods) **

OEE สำหรับงานแพ็คกิ้ง: หัวใจสำคัญสู่อนาคตที่รุ่งเรืองของกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG
ในอุตสาหกรรมอาหารและสินค้า FMCG การบรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนด่านสุดท้ายก่อนที่สินค้าจะถึงมือผู้บริโภค ประสิทธิภาพของกระบวนการนี้จึงส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยตรง การวัดและวิเคราะห์ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ของงานแพ็คกิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ผลิต

** ตัวอย่าง เป้าหมายตัวเลข OEE คือสิ่งที่มักขาดหายไป **
OEE ของงานแพ็คกิ้ง เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางสู่อนาคตที่รุ่งเรืองสำหรับกลุ่มผู้ผลิตอาหารและสินค้า FMCG การวัดและวิเคราะห์ OEE อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ระบุจุดอ่อน ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม
SimplexMove ขอยกตัวอย่างตัวเลขการปรับปรุง OEE ของงานท้ายไลน์การผลิตที่จะช่วยให้หลายๆ ท่านเห็นความสำคัญของการพัฒนาท้ายไลน์การผลิตชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างการวิเคราะห์ OEE ของงานแพ็คกิ้ง: เส้นทางสู่ประสิทธิภาพการผลิตที่เหนือกว่าจากสถานการณ์จำลอง:

โรงงานผลิตอาหารแห่งหนึ่ง กำลังเผชิญกับปัญหาการส่งมอบสินค้าล่าช้า สินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้น และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การวิเคราะห์เบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า ปัญหาเหล่านี้อาจมาจากประสิทธิภาพการทำงานของ "กระบวนการบรรจุภัณฑ์" ที่ต่ำเกินไป

การวิเคราะห์ OEE:
จากการเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่า OEE ของงานแพ็คกิ้งอยู่ที่ 73% แบ่งออกเป็น

• Availability Rate: 85% (เครื่องจักรระบบแพ็คกิ้งท้ายไลน์พร้อมใช้งาน 8.5 ชั่วโมงต่อกะ 10 ชั่วโมง)
• Performance Rate: 90% (แพ็คสินค้าได้ 9 ชิ้นต่อนาที แทนที่จะผลิตได้ 10 ชิ้นต่อนาทีตามมาตรฐาน)
• Quality Rate: 95% (แพ็คผลิตภัณฑ์ 95 ชิ้นจาก 100 ชิ้น ไม่มีตำหนิ)
AxPxQ = 0.85x0.90x0.95 = 0.73 หรือ 73%

โอกาสในการพัฒนาจากการวิเคราะห์ พบโอกาสในการพัฒนา OEE ที่ระบบ packing ท้ายไลน์การผลิตได้ดังนี้

เพิ่ม Availability Rate: ปรับปรุงระบบการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ลดระยะเวลาการหยุดทำงานของเครื่องจักรลง 30 นาทีต่อกะ ส่งผลให้ Availability Rate เพิ่มเป็น 90%
เพิ่ม Performance Rate: ปรับแต่งเครื่องจักรและกระบวนการแพ็คใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลด startup loss ส่งผลให้ Performance Rate เพิ่มเป็น 95%
เพิ่ม Quality Rate ด้วยการปรับ Gripper แบบใหม่: เพิ่มมาตรฐานการแพ็ค สร้าง Quality Rate ใหม่ที่ 98%

หากสามารถพัฒนา OEE ของงานแพ็คกิ้งได้ตามเป้าหมาย จะส่งผลดังนี้

OEE เพิ่มเป็น 84% (คำนวณจาก 90% x 95% x 98%) จากเดิม 73%
ปริมาณการแพ็คสินค้าเพิ่มขึ้น 5% (จาก 9 ชิ้นต่อนาที เป็น 9.5 ชิ้นต่อนาที)
ลดระยะเวลาการแพ็คสินค้าลง 5.3% (จาก 100 นาที เหลือ 94.7 นาที)
ลดต้นทุนการแพ็คสินค้าลง 4.7% (จาก 200 บาท เหลือ 190.6 บาท)
สินค้าคงคลังลดลง 15% (ลดภาระต้นทุนต้องแบกรับค่าสินค้าคงคลังรายวันลงได้)
การส่งมอบสินค้าตรงเวลา 99%

จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่าการเริ่มต้นวิเคราะห์งานจาก OEE ของกระบวนการ Packing ท้ายไลน์จะช่วยให้ผู้ผลิตแปรรูปอาหารและ FMCG ทุกชนิดชนะอุปสรรคของการผลิตได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนกับเงินก้อนโตเพียงเพื่อจะเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการผลิต

SIMPLEXMOVE ให้บริการพัฒนาระบบ PACKING ท้ายไลน์การผลิตตามหลักสูตรของการพัฒนาอุตสาหกรรมผ่านตัวเลข OEE และตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าทุกรายประสบความสำเร็จในกระบวนการผลิตในเงินทุนที่ประหยัดและคืนทุนได้รวดเร็วกว่า

มาพบกันในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 ที่บูธของ #SimplexMove 
🔺Booth No : 1-YY08
🔺Challenger Hall 1
🔺Zone Food Technology   
📍 IMPACT MUANG THONG THANI BANGKOK, THAILAND

🗓 วันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2567
🔸28 - 31 พฤษภาคม | 10 A.M. - 6 P.M.
🔸1 มิถุนายน | 10 A.M. - 8 P.M.

▪ ติดตามข่าวสารใหม่ๆ ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.facebook.com/simplexmove.robotics/

▪ อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.youtube.com/@simplexmovesmartfactory6863

▪ อ่านงานบริการของเราเพิ่มเติม ได้ที่นี่
👉 https://simplexmove.blogspot.com/

📞 สอบถามเพิ่มเติมเพื่อขอรับข้อมูลดีๆ กับ SIMPLEXMOVE เดินหน้าสู่การผลิตแบบ Automation ได้ที่
🌐 Website : https://www.simplexmove.com/
☎ 02-8996374, 086-3080698
📲 LineID: @simplexmove
📲 แอดไลน์สายด่วนคลิก : https://lin.ee/ExqBRXz

#OEE_สำหรับท้ายไลน์การผลิต #Simplify_Complex_Motion #ท้ายไลน์การผลิต #PACKING #THAIFEX_2024 #ROBOT_Palletizer #case_packer #plant_simulation #Visual_components #เครื่องพันพาเลท #เครื่องบรรจุกล่อง #เครื่องกางกล่อง #เครื่องpacking #วงศ์ธนาวุฒิ #SimplexMove #wongtanawoot

Thaifex 2024 Day#3 - The Rise of Frozen Food








อาหารแช่แข็งกำลังโตแบบสุดๆ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง จนถึงวันที่ 30 พค24 นี้เราพบกับผู้ประกอบการอาหารแช่แข็งไม่ต่ำกว่า 25 ราย แบ่งเป็น;

อาหารทะเล 60%
ไก่ 32%
อื่นๆ 8%

จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ SimplexMove พอจะสรุปข้อมูลการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารแช่แข็งได้ดังนี้
+ เหตุผลที่ Frozen food จากประเทศไทยได้รับความนิยมในตลาดโลก
1️⃣ คุณภาพและความปลอดภัย:
วัตถุดิบสดใหม่ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย
เทคโนโลยีการแช่แข็งที่ทันสมัย ช่วยคงคุณภาพ รสชาติ และสารอาหารของอาหารให้อยู่ได้นาน
ได้รับการรับรองจากมาตรฐานสากล เช่น HACCP, ISO

2️⃣ รสชาติถูกปาก:
อาหารแช่แข็งจากไทยมีรสชาติที่หลากหลาย ถูกปากผู้บริโภคทั่วโลก
มีทั้งอาหารไทยต้นตำรับ อาหารฟิวชั่น และอาหารนานาชาติ
ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

3️⃣ สะดวก รวดเร็ว:
ประหยัดเวลาในการเตรียมอาหาร เหมาะกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ
สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารเสีย
หาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

4️⃣ ราคา:
อาหารแช่แข็งจากไทยมีราคาที่แข่งขันได้
คุ้มค่ากับคุณภาพและรสชาติ
เป็นทางเลือกที่ประหยัดเมื่อเทียบกับอาหารสด

5️⃣ นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ:
รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกอาหารแช่แข็ง
มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ห้องเย็น ท่าเรือ
สนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ

กลุ่มผู้ซื้อในตลาดโลกได้แก่:
+ ครอบครัวที่มีเวลาน้อย
+ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่
+ นักศึกษาและวัยทำงาน
+ ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว

มุมมองด้านคุณภาพที่ผู้ขายต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
+ ความปลอดภัยของอาหาร: ต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย
+ คุณภาพของวัตถุดิบ: ต้องใช้วัตถุดิบสดใหม่ มีคุณภาพสูง

รสชาติ: รสชาติต้องถูกปากผู้บริโภค
+ บรรจุภัณฑ์: ต้องคงคุณภาพอาหารให้อยู่ได้นาน
+ ฉลากสินค้า: ต้องระบุข้อมูลสินค้าให้ชัดเจน ครบถ้วน
ตัวเลขการขาย

SimplexMove สืบค้นจากข้อมูลของกรมส่งเสริมการส่งออก คาดการณ์ว่ามูลค่าการส่งออกอาหารแช่แข็งจากไทยในปี 2565 จะอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท
โดยที่แนวโน้มในอนาคต ตลาดอาหารแช่แข็งในประเทศไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต ได้แก่
+ การเติบโตของเศรษฐกิจไทย

การขยายตัวของธุรกิจบริการอาหาร (Foodservice)
พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ชอบความสะดวก รวดเร็ว
+ ความนิยมของอาหารไทยในต่างประเทศ

ปัจจัยที่จะทำให้ frozen food จากประเทศไทยโตต่อ
+ รักษาคุณภาพมาตรฐานของสินค้า
+ พัฒนารสชาติและรูปแบบสินค้าให้หลากหลาย
+ ขยายช่องทางการจำหน่าย

เพิ่มการทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
+ พัฒนาระบบโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน
+ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล

โดยสรุป ผู้ประกอบการ frozen food ที่มาเดินในงาน Thaifex 2024 ที่เราได้มีโอกาสพูดคุยเพื่อพัฒนาท้ายไลน์การผลิตกันนั้น ต่างมองตรงกันว่าผู้ประกอบการไทยควรพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค

รักษามาตรฐานคุณภาพ และขยายช่องทางการจำหน่าย
เพื่อที่ frozen food จากประเทศไทยจะได้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ไม่เพียงแต่ Frozen food ในประเทศไทยที่ให้ความสนใจกับการพัฒนาท้ายไลน์การผลิต ผู้แข่งขันจาก อินเดีย มาเลเซีย เอกวาดอร์ และจากแหล่งประเทศติดทะเลต่างๆ ก็มาเดินงาน Thaifex 2024 และก็มาคนหา Packing solution ดีๆ จาก SimplexMove เพื่อนำไปติดตั้งที่ประเทศของเขาเช่นกัน

ช้าไม่ได้แล้วพวกเรา❗️

มาพบกันในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 ที่บูธของ #SimplexMove
🔺Booth No : 1-YY08
🔺Challenger Hall 1
🔺Zone Food Technology
📍 IMPACT MUANG THONG THANI BANGKOK, THAILAND

🗓 วันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2567
🔸28 - 31 พฤษภาคม | 10 A.M. - 6 P.M.
🔸1 มิถุนายน | 10 A.M. - 8 P.M.

▪ ติดตามข่าวสารใหม่ๆ ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.facebook.com/simplexmove.robotics/

▪ อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.youtube.com/@simplexmovesmartfactory6863

▪ อ่านงานบริการของเราเพิ่มเติม ได้ที่นี่
👉 https://simplexmove.blogspot.com/

📞 สอบถามเพิ่มเติมเพื่อขอรับข้อมูลดีๆ กับ SIMPLEXMOVE เดินหน้าสู่การผลิตแบบ Automation ได้ที่
🌐 Website : https://www.simplexmove.com/
☎ 02-8996374, 086-3080698
📲 LineID: @simplexmove
📲 แอดไลน์สายด่วนคลิก : https://lin.ee/ExqBRXz

#frozen_food #packing_automation #ท้ายไลน์การผลิต #PACKING #THAIFEX_2024 #ROBOT_Palletizer #case_packer #plant_simulation #Visual_components #เครื่องพันพาเลท #เครื่องบรรจุกล่อง #เครื่องกางกล่อง #เครื่องpacking #วงศ์ธนาวุฒิ #SimplexMove #wongtanawoot

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Thaifex_2024 DAY2 - The Movement of Bulk Food Processing





ผู้คนยังคงล้นหลามสำหรับงาน Thaifex 2024 ในวันที่ 2 (29May24) ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมจะคึกคักขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะความต้องการของการแปรรูปอาหารเพื่อให้ส่งไปได้ไกล เก็บได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพรวมถึงราคาประหยัด กลายเป็นสิ่งสำคัญของการแข่งขันในตลาดอาหารทุกวันนี้

ในวันที่ 2 ของการจัดแสดงงาน SimplexMove ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้ประกอบการจำนวน 5 ราย ที่แปรรูปอาหารกลุ่ม Bulk food ได้แก่ผลิตภัณฑ์ที่ เกี่ยวกับ ผงหรือเม็ดขนาดเล็ก อาทิเช่น แป้ง เมล็ดพันธุ์ ผงสี เครื่องเทศ และอื่นๆ

มุมมองในการพัฒนา automation ของพวกเขาเหล่านั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด นั่นคือมองหาระบบลดประเด็นปัญหาแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพร้อมกับควบคุมสิ่งแวดล้อมภายในโรงงาน

SimplexMove ขอสรุปใจความสำคัญมาเพื่อบอกเล่าให้กับพวกเราที่กำลังเดินหน้าสู่การพัฒนา LINE automation ในโรงงานสำหรับ bulk food processing

ผู้ผลิตอาหารจำนวนมากหันมาใช้ระบบ Automation ในโรงงานผลิตของตนด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้:

+ ประสิทธิภาพและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น:
ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอด 24/7 โดยไม่ต้องหยุดพักหรือเหนื่อยล้า ส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับแรงงานคน ซึ่งมีข้อจำกัดเนื่องจากความต้องการและความอดทนของมนุษย์

+ การควบคุมคุณภาพและความสม่ำเสมอที่เหนือกว่า:
เครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอกว่ามนุษย์ สิ่งนี้ช่วยลดข้อผิดพลาดในการชั่ง ตวง และจัดการส่วนผสมจำนวนมาก ซึ่งนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่สม่ำเสมอมากขึ้นซึ่งตรงตามมาตรฐานคุณภาพ

+ ความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง:
งานบางประเภทในการจัดการอาหารจำนวนมากอาจเป็นอันตรายหรือซ้ำซากจำเจ ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงาน ระบบอัตโนมัติสามารถกำจัดมนุษย์ออกจากสถานการณ์ที่เสี่ยงเหล่านี้ ลดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน และปรับปรุงความปลอดภัยโดยรวม

+ ลดต้นทุนแรงงาน:
แม้จะมีการลงทุนเริ่มต้นในอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติ แต่ก็สามารถนำไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากในระยะยาว ต้องการพนักงานแรงงานน้อยลง ลดค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินเดือน

+ ความสามารถในการปรับขนาดที่มากขึ้น:
สายการผลิตอัตโนมัติสามารถปรับขนาดขึ้นหรือลงได้อย่างง่ายดายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ทำให้ผู้ผลิตสามารถปรับตัวให้เข้ากับความผันผวนตามฤดูกาลหรือความนิยมของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกำลังคนอย่างมีนัยสำคัญ

+ การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุง:
ระบบอัตโนมัติสมัยใหม่สามารถรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของการผลิต เช่น การใช้ส่วนผสมและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ข้อมูลนี้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อปรับให้กระบวนการทำงานให้เหมาะสม ระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุง และรับรองการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยรวมแล้ว ระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจำนวนมากเสนอเส้นทางสู่ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และการประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นและช่วยให้ปรับตัวเข้ากับความต้องการของตลาดได้ดีขึ้น

SimplexMove คือผู้ให้บริการ ด้าน automation ในไลน์การผลิตของอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร มีความเชี่ยวชาญในด้าน การออกแบบรายผลิตในส่วน Packing ท้ายไลน์ เรายินดีให้บริการด้านคำปรึกษาเพื่อการพัฒนาการผลิต ให้กับ bulk food processing ของคุณในทุกรูปแบบผลิตภัณฑ์

ปณิธานของเราเชื่อว่า อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารของไทย จะกลายเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศ และเติบโตสู่การเป็น อุตสาหกรรมหลักที่ช่วยค้ำจุนและพัฒนาประเทศชาติ ได้เป็นอย่างดี

เราจะเป็นเฟืองอีก 1 ตัวที่ทำให้คุณเติบโตได้อย่างมีคุณภาพในตลาดโลกอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในระยะยาวด้วยงบประมาณการลงทุนที่คุ้มค่าคืนทุนภายในระยะเวลา 2 ปี

มาพบกันในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 ที่บูธของ #SimplexMove 
🔺Booth No : 1-YY08
🔺Challenger Hall 1
🔺Zone Food Technology   
📍 IMPACT MUANG THONG THANI BANGKOK, THAILAND

🗓 วันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2567
🔸28 - 31 พฤษภาคม | 10 A.M. - 6 P.M.
🔸1 มิถุนายน | 10 A.M. - 8 P.M.

▪ ติดตามข่าวสารใหม่ๆ ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.facebook.com/simplexmove.robotics/

▪ อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.youtube.com/@simplexmovesmartfactory6863

▪ อ่านงานบริการของเราเพิ่มเติม ได้ที่นี่
👉 https://simplexmove.blogspot.com/

📞 สอบถามเพิ่มเติมเพื่อขอรับข้อมูลดีๆ กับ SIMPLEXMOVE เดินหน้าสู่การผลิตแบบ Automation ได้ที่
🌐 Website : https://www.simplexmove.com/
☎ 02-8996374, 086-3080698
📲 LineID: @simplexmove
📲 แอดไลน์สายด่วนคลิก : https://lin.ee/ExqBRXz

#ท้ายไลน์การผลิต #PACKING #THAIFEX_2024 #ROBOT_Palletizer #case_packer #plant_simulation #Visual_components #เครื่องพันพาเลท #เครื่องบรรจุกล่อง #เครื่องกางกล่อง #เครื่องpacking #วงศ์ธนาวุฒิ #SimplexMove #wongtanawoot

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Thaifex 2024 Day 1 - ค่าแรง 400 บาทมีผลกับการตัดสินใจลงทุน Automation มากขึ้น






ในวันแรกของการเปิดกิจกรรม Thaifex 2024 แม้รถจะติดเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งบนทางด่วนและแนวราบเพื่อเดินทางเข้าสู่ Challenger Hall แต่ในอีกด้านหนึ่งมันก็เป็นความน่าภูมิใจลึกๆ สำหรับธุรกิจอาหารของคนไทย ที่ยอมรับได้เลยว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก

เห็นกลุ่ม buyers จากต่างประเทศและในประเทศที่หลั่งไหลเข้ามา ใน Challenger Hall แล้ว รับรู้ได้เลยว่าธุรกิจอาหารของไทย ยังมีอนาคตที่สดใสและไปได้ไกลอีกมาก

บนความรุ่งโรจน์นี้ยังมีความเสี่ยงที่คนไทยหลายคนตระหนักรู้ดีโดยเฉพาะผู้ผลิต ในอุตสาหกรรมอาหาร นั่นคือเรื่องของประเด็นแรงงานที่ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องการขาดแคลนจำนวนแต่รวมถึงเรื่องทักษะ และความสม่ำเสมอของผลงานที่ส่งมอบออกมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อส่งขายตลาดโลกด้วย

วันนี้ประเทศเพื่อนบ้านของเราที่อยู่ในแถบโซนร้อนเส้นศูนย์สูตร มีผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากสินค้าเกษตรกรรมแปรรูปหลายอย่างที่เขากำลังพัฒนากระบวนการการผลิตด้วยแรงงานคนที่จำกัด แต่ส่งมอบแบบประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยีที่ประกอบอยู่ภายในโรงงาน

จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการกว่า 50 รายที่เดินเข้ามาหา SimplexMove ในงาน Thaifex 2024 ปีนี้ ในวันแรกเราสรุปประเด็นของการขยับตัวที่สำคัญจากผู้ประกอบการที่มีความกระตือรือร้นที่จะแข่งขันในตลาดโลกมาให้ผู้ประกอบการอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เดินทางเข้าสู่เส้นทางนี้มาได้ฟังกันครับ

1. ค่าแรง 400 บาทต่อวันส่งผลต่อการเดินหน้าสู่การลดต้นทุนที่จริงจังมากขึ้น

เหตุผลง่ายๆสำหรับค่าแรงที่แพงสูงขึ้นนี้คือ ลูกค้ามองหาแต่สินค้าที่มีราคาถูกลงในคุณภาพที่เท่าเดิม เนื่องจากการแข่งขันในตลาดโลกมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนในการแปรรูปอาหาร และทำให้คุณภาพอาหาร ใหม่สด และเก็บไว้ได้นานกว่า ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น คือปัจจัยลบสำหรับ การอยู่รอดในตลาดโลก

2. แรงงานหายากขึ้น

ปัจจุบันกลุ่มรายงานที่ต้องการอยู่ในโรงงานและทำงานซ้ำๆเป็นประจำซึ่งในบางสภาวะมีสภาพแวดล้อมในโรงงานที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานมากนักยกตัวอย่างเช่นความร้อน หรือการยกของหนัก กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการค้นหาแรงงาน แม้จะให้ค่าแรงเฉลี่ยสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำเป็นอย่างมากก็ยังไม่สามารถหารายงาน มาให้เพียงพอกับที่ต้องการในการผลิตที่ต้องตอบโจทย์ลูกค้า

3. กำลังซื้อตลาด

หลังจากสภาวะโควิดเป็นต้นมา กำลังซื้อของตลาดในภาคอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารดีขึ้นมาเป็นลำดับ แต่ก็ยังไม่ถึงจุดสูงสุดเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสถานการณ์โควิด

สิ่งเรียนรู้ที่ผู้ประกอบการกลุ่มผู้มีความกระตือรือร้นในการก้าวเข้าสู่ตลาดโลกต่างมองเหมือนกันนั่นคือ การฟื้นตัวของภาคการผลิตให้เร็วที่สุดด้วยการใช้เทคโนโลยีในโรงงาน เพื่อช่วงชิงตำแหน่ง ทางการตลาดจากคู่แข่งเดิมที่เคยมีตำแหน่งที่ดีกว่าด้วยการปรับปรุง คุณภาพสินค้าและระยะเวลาส่งมอบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบ automation ในโรงงาน หรือการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนไปหลังจากช่วงสถานการณ์โควิดได้ดีขึ้น นี่คือจังหวะแห่งการช่วงชิงที่จะแซงหน้าคู่แข่งหรือ Champion คนเดิมได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน

ปัจจัยหลัก 3 ข้อนี้คือสิ่งที่ผู้ประกอบการเกือบทุกรายต่างมองเห็นเป็นสิ่งเดียวกัน และเขาเหล่านั้นก็เดินทางเข้าสู่กระบวนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในโรงงาน

ในงาน Thaifex 2024 Day #1 นี้ SimplexMove ได้รับนัดหมายกับลูกค้าหลายรายเพื่อเข้าไปพัฒนารายการผลิตด้านการใช้ plant simulation และ Visual component กับการสร้างภาพการทำงานและวาง floor plqn แบบมีเทคโนโลยีบน layout ที่ตอบโจทย์พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดและการลงทุนที่ต้องมีผลตอบแทนการลงทุนภายในระยะเวลา 2 ปี

SimplexMove คือผู้ชำนาญการด้านการลำเลียง และการแพ็คกิ้งท้ายไลน์การผลิตในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ อาทิเช่น กล่อง ขวด ซอง กระสอบ และการลำเลียงต่าง เพื่อบรรจุ ขึ้นพาเลท ยาวไปถึงการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบระบบอัตโนมัติ ด้วยซอฟต์แวร์ที่ทีมของเราออกแบบมา เพื่อตอบโจทย์การดันผลิตภัณฑ์ ขึ้นสู่แพลตฟอร์ม e-commerce ให้ลูกค้าได้มองเห็นสต๊อกแบบ Real Time และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มทุกที่

Day #2 จะค้นพบกับอะไรอีกบ้าง SimplexMove จะนำข้อมูลเพื่อการพัฒนาสินค้า FMCG ในสถานการณ์ที่น่าสนใจนี้มาเล่าให้ฟังกันอีก

มาพบกันในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 ที่บูธของ #SimplexMove 
🔺Booth No : 1-YY08
🔺Challenger Hall 1
🔺Zone Food Technology   
📍 IMPACT MUANG THONG THANI BANGKOK, THAILAND

🗓 วันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2567
🔸28 - 31 พฤษภาคม | 10 A.M. - 6 P.M.
🔸1 มิถุนายน | 10 A.M. - 8 P.M.

▪ ติดตามข่าวสารใหม่ๆ ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.facebook.com/simplexmove.robotics/

▪ อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ของ SimplexMove Robotics ได้ที่นี่
👉 https://www.youtube.com/@simplexmovesmartfactory6863

▪ อ่านงานบริการของเราเพิ่มเติม ได้ที่นี่
👉 https://simplexmove.blogspot.com/

📞 สอบถามเพิ่มเติมเพื่อขอรับข้อมูลดีๆ กับ SIMPLEXMOVE เดินหน้าสู่การผลิตแบบ Automation ได้ที่
🌐 Website : https://www.simplexmove.com/
☎ 02-8996374, 086-3080698
📲 LineID: @simplexmove
📲 แอดไลน์สายด่วนคลิก : https://lin.ee/ExqBRXz

#ท้ายไลน์การผลิต #PACKING #THAIFEX_2024 #ROBOT_Palletizer #case_packer #plant_simulation #Visual_components #เครื่องพันพาเลท #เครื่องบรรจุกล่อง #เครื่องกางกล่อง #เครื่องpacking #วงศ์ธนาวุฒิ #SimplexMove #wongtanawoot